ฝึกสกิลการคุย ด้วย Answer, Add, Ask

ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ คุยกับคนแปลกหน้า ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

Chayaporn Tantisukarom
1 min readApr 14, 2019
Photo by Antenna on Unsplash

ตอนผมเรียนมัธยม มีบทเรียนภาษาอังกฤษตอนหนึ่งซึ่งสอนโดยครูต่างชาติ ที่ผมทำและจำจนติดมาเป็นนิสัยจนถึงวันนี้คือ Answer, Add, Ask

เวลาเราพูดคุยกับคนอื่น บางครั้งการสร้างบทสนทนาก็เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จักกันมากนัก หรืองาน networking ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยคนใหม่ๆ ผมพบว่าการสร้างบทสนทนาอย่างง่ายที่สุด จะเริ่มด้วยการถามคำถามก่อน

เช่น ทำงานอะไรอยู่ เดินทางมายังไง รู้จักกับคนนั้นคนนี้ได้ยังไง ทำไมถึงมางานวันนี้ สนใจอะไร ชอบตอนไหนมากที่สุดของงาน เคยไปเที่ยวที่นั่นมั้ย

และวิธีสานต่อคำถามนั้นคือ

  • Answer ตอบคำถามนั้น
  • Add ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
  • Ask ถามกลับ

แล้วก็วนไปเรื่อยๆ

ซึ่งมันก็ได้ผลอยู่นะ ทำให้เรามีเรื่องไปคุยมากขึ้น ไม่เงียบ ไม่ dead air (คุยกับคนที่ชอบให้ไม่น่าเบื่อก็น่าจะใช้วิธีนี้ได้เหมือนกัน :P)

ตัวอย่างเช่น

A: ทำงานอะไรอยู่
B: ฉันเป็น Software Developer อยู่ที่บริษัท XXXX ตอนนี้ทำ Product ที่ชื่อ YYYY อยู่ รู้จักมั้ย

พอเราได้ยินคำถามนี้ เราก็จะนึกถึงตัวเองแล้วว่า โดยอาชีพ เรามีอาชีพคืออะไร ทำงานอยู่ที่บริษัทอะไร นั่นคือ Answer

แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถ Add เรื่องราวเข้าไปกับคำตอบนั้นของเราได้ด้วย คนที่เป็นโปรแกรมเมอร์ก็อาจบอกว่าทำผลิตภัณฑ์ตัวไหนอยู่ เขียนภาษาอะไรเป็นหลัก คนทำงานกราฟฟิคก็อาจจะบอกว่าทำให้สื่อประเภทไหน เว็บไหน หนังสือเล่มไหน มีผลงานอะไรบ้าง

และก็สามารถ Ask เพิ่มความยาวของบทสนทนาด้วยการถามคำถามเพิ่ม เช่นว่า เคยใช้ไหม รู้จักไหม เคยได้ยินหรือเปล่า หรือเปิดบทสนทนาใหม่อย่าง แล้วคุณทำงานอะไร ก็ได้

ผมพบว่าการต่อบทสนทนาประเภทนี้เป็นการ reflect ตัวเองอย่างหนึ่ง คือเมื่อเราตอบคำถามได้แล้ว สิ่งที่เราจะเล่าต่อไปเพื่อให้บทสนทนายาวขึ้นนี่แหละ คือตัวตนของเรา ว่าเราจะเล่าอะไรให้เขาฟัง เราจะดึงเขาต่อไปทางไหน ถ้าเรื่องเดิมมันสนุกจะคุยเรื่องเดิมต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ หรือจะฉีกเข้าเรื่องใหม่ก็ได้เหมือนกัน

เหมือนกับที่ในหนังสือที่ชื่อ How to Win Friends and Influence People บอกเอาไว้ว่า

Be a good listener. Encourage others to talk about themselves

และ

Talk in terms of the other person’s interests

วิธีการชวนคนอื่นคุย ก็คือให้เขาได้เล่าในสิ่งที่เขาอยากเล่านั่นแหละ :)

Photo by Priscilla Du Preez on Unsplash

--

--